ช่วยด้วยๆ...ร่างกายขอความช่วยเหลืออยู่นะครับพี่น้อง...ดูแลกันหน่อย
เราจะรู้ได้อย่างไร? ว่าร่างกายของเรากำลังร้องขอความช่วยเหลือ
วันนี้หมอตี้ขออธิบายอาการใกล้ตัวที่คนวัยทำงานหลายคนอาจเคยสัมผัส แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีปัญหาร้ายแรงหรือไม่ หมอตี๋จึงขอรวบรวมลักษณะสำคัญๆ ที่ร่างกายกำลังบอกเราว่า "อย่าลืมดูแลฉันนะ"
1.หัวใจ
เมื่อหัวใจมีปัญหา อาการทั่วไปที่อาจพบได้เช่น เจ็บบริเวณหน้าอกเหมือนมีเข็มแทง ปวดเป็นระยะๆ แขนข้างซ้ายปวดและชาไปด้วย หายใจไม่สะดวก ครั้นไปโรงพยาบาล คุณหมอกลับไม่พบอาการผิดปกติ กลับกันตามหลักแพทย์จีนเมื่อหัวใจมีปัญหา ยังจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เป็นแผลในปากบ่อย ปัสสาวะออกสีเหลืองเข้ม นอนไม่หลับ แม้หลับก็ฝัน รู้สึกใจสั่น ซึ่งหมายถึงอาการหัวใจร้อนนั่นเองครับ
2.ตับ
ตามหลักแพทย์จีนเมื่อเรามีอารมณ์หงุดหงิด แปรปรวน ฉุนเฉียว หรือก็คือลักษณะของคนใจร้อน อาจส่งผลร้ายต่อตับ เวลาที่ตับผิดปกติ จะรู้สึกปวดบริเวณท้องหรือเอวด้านบนขวา ไหล่ขวาจะปวดชา หรือเป็นตะคริวที่บริเวณน่อง ปวดหัวบ่อย เครียดลงกระเพาะ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปวดประจำเดือน เจ็บเต้านมเวลาที่ประจำเดือนมา หากใครมีอาการเหล่านี้ลองหาเวลาไปพบหมอแมะดูอาการก่อนก็ดีนะครับ
3.ปอด
หลายคนอาจสงสัยว่าการเจ็บป่วยไม่สบายบ่อยครั้งมาจากสาเหตุอะไร บางคนอาจมีอาการไอเรื้อรังมานาน กินยาหลายขนานก็ไม่หายเสียที บางคนผื่นขึ้นตามตัวเป็นประจำ หลายครั้งอาการเหล่านี้แพทย์แผนปัจจุบันเองอาจหาสาเหตุไม่ได้ แต่สำหรับแพทย์จีนแล้ว ปอดของเรานั้นทำหน้าที่เชื่อมร่างกายกับอากาศภายนอก และป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย อาการที่เกิดขึ้นอาจสืบเนื่องมาจากปอดอ่อนแอ การบำรุงปอดจึงจะช่วยให้เรามีภูมิต้านทานที่ดีขึ้นครับ
4.ไต
ไตเป็นอวัยวะที่สำคัญ บางคนคิดว่าโรคไตของแพทย์แผนปัจจุบัน กับโรคไตของแพทย์แผนจีนนั้นเหมือนกัน อันที่จริงแตกต่างกันครับ เพราะโรคไตของแพทย์แผนปัจจุบันเกิดจากการที่อวัยวะมีประสิทธิภาพลดลง เป็นผลให้ค่าของเลือดหรือปัสสาวะที่ตรวจเจอมีค่าของเสียเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน สำหรับแพทย์จีนจะพูดถึงโรคไตอันเนื่องมาจากการเสียสมดุล เมื่อไตเสียสมดุล อาการแรกเริ่มคือ เมื่อยเอว ปัสสาวะไม่สุด หรือเป็นเลือด นกเขาไม่ขัน นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ (หลั่งเร็ว) ซึ่งแสดงว่าไตกำลังมีปัญหา ต้องการการบำรุงด่วนจ้า
5.ม้าม
ตามหลักแพทย์จีนแล้ว ม้ามจัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางของร่างกาย เมื่อม้ามพร่อง ร่างกายจะเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย อยากอาหารลดลง มีลมในกระเพาะมาก ท้องเสียง่าย ปวดหัวหรือมึนหัว เนื่องจากพลังส่งไปไม่ถึงสมอง แสดงว่าร่างกายเราต้องการการบำรุงแล้วครับ
อวัยวะภายในทั้งห้า ใช้วิธีดูแลตามแบบฉบับแพทย์จีนที่หลากหลาย ทั้งทานยา ฝังเข็ม นวดกดจุด และอื่นๆ หากใครมีอาการตามที่ระบุข้างต้น แสดงว่าร่างกายกำลังต้องการความเอาใจใส่จากเราแล้ว ถ้ามีโอกาสลองให้แพทย์จีนช่วยดูแลและแนะนำ อย่าลืมว่าสุขภาพที่แข็งแรง ย่อมมาจากการเอาใจใส่ของตัวเราเองนะครับ
วันนี้หมอตี้ขออธิบายอาการใกล้ตัวที่คนวัยทำงานหลายคนอาจเคยสัมผัส แต่ไม่แน่ใจว่าจะมีปัญหาร้ายแรงหรือไม่ หมอตี๋จึงขอรวบรวมลักษณะสำคัญๆ ที่ร่างกายกำลังบอกเราว่า "อย่าลืมดูแลฉันนะ"
1.หัวใจ
เมื่อหัวใจมีปัญหา อาการทั่วไปที่อาจพบได้เช่น เจ็บบริเวณหน้าอกเหมือนมีเข็มแทง ปวดเป็นระยะๆ แขนข้างซ้ายปวดและชาไปด้วย หายใจไม่สะดวก ครั้นไปโรงพยาบาล คุณหมอกลับไม่พบอาการผิดปกติ กลับกันตามหลักแพทย์จีนเมื่อหัวใจมีปัญหา ยังจะมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เป็นแผลในปากบ่อย ปัสสาวะออกสีเหลืองเข้ม นอนไม่หลับ แม้หลับก็ฝัน รู้สึกใจสั่น ซึ่งหมายถึงอาการหัวใจร้อนนั่นเองครับ
2.ตับ
ตามหลักแพทย์จีนเมื่อเรามีอารมณ์หงุดหงิด แปรปรวน ฉุนเฉียว หรือก็คือลักษณะของคนใจร้อน อาจส่งผลร้ายต่อตับ เวลาที่ตับผิดปกติ จะรู้สึกปวดบริเวณท้องหรือเอวด้านบนขวา ไหล่ขวาจะปวดชา หรือเป็นตะคริวที่บริเวณน่อง ปวดหัวบ่อย เครียดลงกระเพาะ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปวดประจำเดือน เจ็บเต้านมเวลาที่ประจำเดือนมา หากใครมีอาการเหล่านี้ลองหาเวลาไปพบหมอแมะดูอาการก่อนก็ดีนะครับ
3.ปอด
หลายคนอาจสงสัยว่าการเจ็บป่วยไม่สบายบ่อยครั้งมาจากสาเหตุอะไร บางคนอาจมีอาการไอเรื้อรังมานาน กินยาหลายขนานก็ไม่หายเสียที บางคนผื่นขึ้นตามตัวเป็นประจำ หลายครั้งอาการเหล่านี้แพทย์แผนปัจจุบันเองอาจหาสาเหตุไม่ได้ แต่สำหรับแพทย์จีนแล้ว ปอดของเรานั้นทำหน้าที่เชื่อมร่างกายกับอากาศภายนอก และป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย อาการที่เกิดขึ้นอาจสืบเนื่องมาจากปอดอ่อนแอ การบำรุงปอดจึงจะช่วยให้เรามีภูมิต้านทานที่ดีขึ้นครับ
4.ไต
ไตเป็นอวัยวะที่สำคัญ บางคนคิดว่าโรคไตของแพทย์แผนปัจจุบัน กับโรคไตของแพทย์แผนจีนนั้นเหมือนกัน อันที่จริงแตกต่างกันครับ เพราะโรคไตของแพทย์แผนปัจจุบันเกิดจากการที่อวัยวะมีประสิทธิภาพลดลง เป็นผลให้ค่าของเลือดหรือปัสสาวะที่ตรวจเจอมีค่าของเสียเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน สำหรับแพทย์จีนจะพูดถึงโรคไตอันเนื่องมาจากการเสียสมดุล เมื่อไตเสียสมดุล อาการแรกเริ่มคือ เมื่อยเอว ปัสสาวะไม่สุด หรือเป็นเลือด นกเขาไม่ขัน นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ (หลั่งเร็ว) ซึ่งแสดงว่าไตกำลังมีปัญหา ต้องการการบำรุงด่วนจ้า
5.ม้าม
ตามหลักแพทย์จีนแล้ว ม้ามจัดได้ว่าเป็นศูนย์กลางของร่างกาย เมื่อม้ามพร่อง ร่างกายจะเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย อยากอาหารลดลง มีลมในกระเพาะมาก ท้องเสียง่าย ปวดหัวหรือมึนหัว เนื่องจากพลังส่งไปไม่ถึงสมอง แสดงว่าร่างกายเราต้องการการบำรุงแล้วครับ
อวัยวะภายในทั้งห้า ใช้วิธีดูแลตามแบบฉบับแพทย์จีนที่หลากหลาย ทั้งทานยา ฝังเข็ม นวดกดจุด และอื่นๆ หากใครมีอาการตามที่ระบุข้างต้น แสดงว่าร่างกายกำลังต้องการความเอาใจใส่จากเราแล้ว ถ้ามีโอกาสลองให้แพทย์จีนช่วยดูแลและแนะนำ อย่าลืมว่าสุขภาพที่แข็งแรง ย่อมมาจากการเอาใจใส่ของตัวเราเองนะครับ
กดเข้าไปในรูปภาพแล้วแชร์ให้คนอื่นได้เลย
อย่าลืมติดตามความรู้ดีๆจากแพทย์จีนได้ที่เพจ
ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็ม
แสกนLineไว้เลยครับ ข่าวสารดีๆจะส่งถึงมือคุณ
เพียงคลิ๊ก https://goo.gl/X8j3e7
หรือค้นหา @dr_tee (มี@ด้วยนะครับ)
ามารถเข้ามาปรึกษาปัญหาสุขภาพ
และรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน ฝังเข็ม
และให้ยาสมุนไพรจีนบำรุงสุขภาพ รักษาโรค
หากท่านใด เข้ามาที่คลินิกแนะนำให้นัดเวลาก่อนล่วงหน้านะครับ
อย่าลืมติดตามความรู้ดีๆจากแพทย์จีนได้ที่เพจ
ดร เยาวเกียรติ แพทย์จีน ฝังเข็ม
หรือแสกนQR code
แสกนLineไว้เลยครับ ข่าวสารดีๆจะส่งถึงมือคุณ
เพียงคลิ๊ก https://goo.gl/X8j3e7
หรือค้นหา @dr_tee (มี@ด้วยนะครับ)
Post a Comment